
ตำรวจภาค 1 ทลายเครือข่ายยาเสพติด “นักขนยาเสพติดตะวันออก” รวบ 2 ผู้ต้องหาขนคีตามีน 300 กก. มูลค่ากว่า 150 ล้านบาทพร้อมเร่งขยายผลล่าต้นตอเครือข่ายใหญ่และยึดทรัพย์
วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่วลา 09.30 น. ที่ตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พร้อมคณะฯ แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ทำลายเครือข่ายนักขนยาเสพติดตะวันออก โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายภาณุวัตน์ หรือ “น็อต” อายุ 28 ปี และ นายดนุพล หรือ “มอส” อายุ 25 ปี พร้อมของกลางคีตามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 น้ำหนักรวมประมาณ 300 กิโลกรัม รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็ก สีขาว 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด
พล.ต.ท.วัฒนา เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลจากคดีเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 68 ที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายสุรัตน์ กับพวก รวม 3 ราย พร้อมยาบ้า 60,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี จากการสอบสวนพบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มของนายภาณุวัตน์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและได้รับคำสั่งให้สืบสวนขยายผลติดตามอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาวันที่ 2 พ.ย. 68 เจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของนายภาณุวัตน์ ขับรถกระบะต้องสงสัยออกจากที่พักในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าไปยัง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อรับยาเสพติด จากนั้นขับกลับมาทาง จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งใต้ จนกระทั่งวันที่ 3 พ.ย. 68 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการสกัดจับได้ที่บริเวณแขวงแสมดำ กรุงเทพฯ
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้รับยาเสพติดของกลางมาจริง และกำลังจะนำไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฐานร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน
พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก โดยคีตามีนของกลางกว่า 300 กิโลกรัม หากหลุดรอดออกสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้สั่งการ ผู้อยู่เบื้องหลัง และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน เพื่อดำเนินการตามมาตรการฟอกเงินและยึดทรัพย์ต่อไป