วันอังคาร, 11 พฤศจิกายน 2568

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักลอบขนต่างด้าวหนีข้ามประเทศ


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักลอบขนต่างด้าวหนีข้ามประเทศ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน., พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผกก.7 บก.รน., พ.ต.ท.ก้องเกียรติ เหมทานนท์ รอง ผกก.7 บก.รน., พ.ต.ท.ภูวเสฏฐ์ ชำนินา รอง ผกก.7 บก.รน., พ.ต.ท.จิรายุทธ์ แก้วด้วง สว.ส.รน.4 กก.7 บก.รน.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ท.ยศกร ปิยะนันท์ รอง สว. (ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.4 กก.7 บก.รน./หน.ชุด, ร.ต.ต.บุญโชติ พรหมจันทร์ รอง สว.(ป.ทางน้ำ) ส.รน.4 กก.7 บก.รน./ผคค.เรือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 8 ราย ดังนี้
1.นายรูซูวันฯ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย (ผู้ควบคุมเรือ/ผู้นำพาต่างด้าวหนี)
2.นายซูไฮมีฯ อายุ 19 ปี สัญชาติไทย (ผู้นำพาต่างด้าวหนี)
3.นายอับดุลสานีฯ อายุ 28 ปี สัญชาติไทย (ผู้นำพาต่างด้าวหนี)
4.นายโทนฯ อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เชื้อชาติเมียนมาร์
5.นางสาวมู อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เชื้อชาติเมียนมาร์
6. นางสาวโต อายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เชื้อชาติเมียนมาร์
7.นายเตน อายุ 34 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เชื้อชาติเมียนมาร์
8.นางสาวเซม อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เชื้อชาติเมียนมาร์
โดยเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่ากระทำผิดฐาน
– ผู้ต้องหาที่ 1 – 3 “ร่วมกันให้การช่วยเหลือ ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ คนต่างด้าวที่
เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64
– และผู้ต้องหา ที่ 4 – 8 ว่ามีความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร
โดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81
– และกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 เพิ่มเติมว่า
1. เป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุมพาหนะ นำพาหนะเข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ กระทำความผิดตามมาตรา 26 วรรค 1 และ 66 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
2. นำเรือออกมาใช้โดยไม่มีใบอนุญาตการใช้เรือ กระทำความผิดตามมาตรา 277 แห่ง พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456
3. ทำหน้าที่ในเรือโดยไม่มีไปประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถ กระทำความผิดตามมาตรา 282แห่ง พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456
ยานพาหนะที่ตรวจสอบ/ยึด เรือยนต์ติดเครื่องท้าย ตัวเรือน้ำเงิน ขอบสีเทา ตัวเรือสี เทา-แดง หลังคาสีดำ ไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมด้วยเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ 4 จังหวะ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น F150DET 63P X 1193829
ขนาด 150 แรงม้า
สถานที่จับกุม ปากร่องแม่น้ำสุไหงโกลก ซึ่งห่างจากฝั่ง 1.2 ไมล์ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

พฤติการณ์ ร.ต.ท.ยศกร ปิยะนันท์ หัวหน้าชุดจับกุม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ออกทำการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบโดยใช้เรือตรวจการณ์ รน.56 ขณะขับเรือแล่นอยู่บริเวณปากร่องแม่น้ำสุไหง-โกลก ได้พบเรือสปีดโบ๊ทสีเทามีคนอยู่ในเรือ 3 คน (ทราบชื่อคนขับเรือในภายหลังคือนายรูซูวันฯ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย) ตัวเรือสีน้ำเงิน
ไม่มีเลขทะเบียน กำลังขับเรือโดยมุ่งหน้าไปยังประเทศมาเลเซีย อยู่บริเวณหน้าหาดเสด็จ ซึ่งห่างจากฝั่ง 1.2 ไมล์ กำลังเดินทางไปยังฝั่งประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย ร.ต.ท.ยศกรฯ จึงทำการเรียกตรวจเรือดังกล่าว แต่เรือลำดังกล่าวกับมีพฤติการณ์หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงทำการไล่ติดตาม จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถเทียบเรือลำดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขึ้นไปยังเรือลำดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น โดย ร.ต.ท.ยศกรฯ ได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจน้ำ สังกัด ส.รน.4 กก.7 บก.รน. และได้เชิญตัว
นายรูซูวันฯ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเรือลำดังกล่าว เป็นผู้นำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นตรวจพบบุคคลไม่ทราบสัญชาติ และไม่สามารถโต้ตอบด้วยภาษาไทยได้ 5 คน โดยมีชาย 2 หญิง 3 คน (ทราบภายหลังว่าเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมาร์) ซึ่งกำลังซ่อนอยู่ในตัวเรือ โดยมีผ้าสีดำมาคลุมซ่อนพรางเอาไว้ ร.ต.ท.ยศกรฯ ได้สอบถาม นายรูซูวันฯ ซึ่งเป็นคนขับเรือ เกี่ยวกับบุคคลต่างด้าวทั้งหมดในเรือ นายรูซูวันฯ ได้ให้การรับว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้ไปรับบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ 5 คน ให้พาไปส่งยังประเทศมาเลเซีย ยังท่าเรือในเมืองโกตาบารู โดยแต่ละครั้งจะได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงินเที่ยวละ 50 ริงกิตมาเลเซียต่อคน รวมเป็น 250 ริงกิตมาเลเซีย คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,900 บาท โดยค่าจ้างนี้จะจ่ายเป็นเงินสดให้ หลังจากที่คนต่างด้าวถึงท่าเรือเมืองโกตาบารูแล้ว จากนั้น ร.ต.ท.ยศกรฯ หัวหน้าชุดจับกุมและพวกจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ นายซูรูวันฯ และพวก

ต่อมา ร.ต.ท.ยศกรฯ ได้ติดต่อไปยัง นายทาน ไท อ่อง บุคคลสัญชาติเมียนม่าร์ ซึ่งสามารถพูดคุยภาษาไทยและภาษาเมียนมาร์ได้เป็นอย่างดี มาเป็นล่ามแปลภาษา โดยร.ต.ท.ยศกรฯ ได้ให้ล่ามสอบถาม บุคคลสัญชาติเมียนมาร์ทั้งห้าคน ว่ามีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยหรือไม่ บุคคลสัญชาติเมียนมาร์ได้ให้การว่า พวกตนไม่มีหนังสือเดินทางและเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด ได้ลักลอบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อจะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย จากนั้นได้แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับกุมตามกฎหมายให้ทราบ บุคคลสัญชาติเมียนมาร์ทั้งห้าคน เข้าใจในข้อกล่าวหาดีแล้ว พร้อมกับให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมดพร้อมของกลางมายัง ส.รน.4 กก.7 บก.รน. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นเจ้าพนักงาน
ชุดจับกุม ได้จัดทำบันทึกการจับกุมจัดทำประวัติบุคคลและจัดทำเอกสารตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 จัดทำเอกสารแบบคัดกรองเบื้องต้น (NRM) ร่วมกับสหวิชาชีพ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตากใบ จว.นราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท. จิรายุทธ์ แก้วด้วง สว.ส.รน.4 กก.7 บก.รน. โทร. 087-